ความเป็นมาของแบรนด์ในตำนาน 100 ปี L'Oréal

พ.ศ. 2450	มิสเตอร์ ยูชีน ชูแลร์ นักเคมีหนุ่มชาวฝรั่งเศส ได้พัฒนาครีมเปลี่ยนสีผมที่ปลอดภัยต่อเส้นผมเป็นรายแรกของโลก พร้อมทั้งแนะนำนวัตกรรมใหม่ของเขาเข้าสู่ร้านซาลอนในกรุงปารีส
พ.ศ. 2451	สิทธิบัตรสำหรับเทคนิคใหม่นี้ได้รับการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 24 มีนาคม เปิดตัว ดีเซล เข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอมของแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง
พ.ศ. 2452	La Societe Franeaise des Teintures inoffensives pour Cheveux ได้ก่อกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ซึ่งในเวลาต่อมาคือกลุ่มบริษัทลอรีอัลที่เห็นกันในปัจจุบัน หลักการพื้นฐานของลอรีอัลได้ถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็คือการวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ได้แก่ ความงามจากแลบบอราทัวร์สการ์นิเย่
พ.ศ. 2455	ลอรีอัลขยายธุรกิจโดยการวางตลาดผลิตภัณฑ์ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และอิตาลี
พ.ศ. 2463	บริษัทเล็กๆ ของลอรีอัล มีนักเคมีร่วมทำงานวิจัยเพียง 3 คน
พ.ศ. 2472	ลอรีอัลแนะนำผลิตภัณฑ์ เอ็กซ์เซลเลนซ์ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชนิดทำด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2479	ลอรีอัลแนะนำผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด แอมเบอร์ โซแลร์
พ.ศ. 2493	จำนวนนักวิจัยที่ทำงานในห้องแล็บของลอรีอัลเพิ่มขึ้นเป็น 100 คน
พ.ศ. 2496	ได้รับรางวัลออสการ์สาขางานโฆษณา ซึ่งเป็นรางวัลชิ้นแรกในรางวัลจำนวนมากที่ลอรีอัลได้รับในเวลาต่อมา
พ.ศ. 2527	จำนวนพนักงานในห้องวิจัยของลอรีอัลเพิ่มเป็น 1000 คน
พ.ศ. 2539	ลอรีอัลเข้าซื้อกิจการของ “เมย์เบลลีน นิวยอร์ก” ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
พ.ศ. 2542	เป็นเวลา 15 ปีต่อเนื่องที่ลอรีอัลมีอัตราการเจริญเติบโตเป็นดัชนีสองหลัก
พ.ศ. 2543	ลอรีอัลมีพนักงานวิจัยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผลิตภัณฑ์กว่า 2350 คน
พ.ศ. 2544	ผลกำไรของกลุ่มบริษัทลอรีอัลอยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ และยังคงสูงขึ้นๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และจำนวนของนักวิจัยในห้องทดลองเพิ่มขึ้นมาเป็นเกือบ 3000 คนในปี 2550

ประวัติโดยย่อ

ลอรีอัล ก่อตั้งเมื่อปี 1907 โดยนักเคมีชื่อ Eugene Schueller สินค้าตัวแรกเป็นผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม แบรนด์ L’Aureole จากนั้นก็ขยายสู่ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผม (Hair care) ผลิตภัณฑ์เด่นคือ แชมพูElseve ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) แบรนด์ Plenitude ในอดีต หรือ Demo Expertise ในปัจจุบันมีLaura Makeup มี Men Expert Body Expertise และ Styling ของ Studio Line กล่าวได้ว่า มีครบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์

Eugene Schueller

ในปี 1920 บริษัทได้จ้างนักเคมีเพื่อมาดูแลการทำงาน และปี 1950ได้เกิดทีมวิจัยที่แข็งแกร่งเท่าต่อมาในปี 1984 ลอรีอัลได้เริ่มต้นในธุรกิจผมสี แต่ บริษัท แยกออกไปในไม่ช้า ได้มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์ความงาม ในตลาดปัจจุบันมีตลากมากกว่า 500 แบรนด์และหลายพันของผลิตภัณฑ์ในแต่ละภาคส่วนของธุรกิจความงาม: สีผม, ปลัด, จัดแต่งทรงผม, การดูแลร่างกายและผิวหนัง, น้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางและน้ำหอม ผลิตภัณฑ์จะพบได้ว่า จะพบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของช่องทางการจัดจำหน่ายจากร้านทำผมและน้ำหอม ทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสุขภาพ / ความงามร้านขายยาและไดเร็คเมล ลอรีอัลมีสำนักงานใหญ่อยู่5สาขา ที่แพร่หลายไปทั่วโลก เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา เช่นในฝรั่งเศส: Aulnay และ Chevilly ; ใน สหรัฐ : คลาร์ก , นิวเจอร์ซีย์ ; ใน ญี่ปุ่น : คาวาซากิ , จังหวัดคานากา ; และในปี 2005 ถูกก่อตั้งขึ้นใน เซี่ยงไฮ้ , จีน . และ L’Oreal มีความมั่นใจตลาดสินค้าความงามไปได้ดี เศรษฐกิจแย่แต่ไม่ส่งผลกระทบเท่าใดนักจากอดีตถึงปัจจุบันตลาดของรอลิอัลได้โตกว่าตลาดรวม 3 เท่า

ด้วยสำนึกในหลักจริยธรรม การให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับกับชุมชนในท้องถิ่น และความกระตือรือร้นที่จะมองไปข้างหน้าสู่โลกแห่งอนาคต

The History of "Because You're Worth It"

ธุรกิจของลอรีอัล

§ - บริษัทความงามอันดับ 1 ของโลก

§ - กว่า 100 ปีของความเชี่ยวชาญด้านความงาม

§ - ยอดขายรวม 20,300 ล้านยูโรในปี 2011

§ - 27 แบรนด์ระดับโลก*

§ - วางจำหน่ายใน 130 ประเทศ

§ - พนักงาน 68,900 คน

§ - จดสิทธิบัตร 613 ฉบับในปี 2011

* แบรนด์ที่มียอดขายสูงกว่า 50 ล้านยูโรต่อปี

ยี่ห้อผลิตภัณฑ์ในเครือ L'Oréal ก็มีมากมาย ... แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มด้วยกัน

1. Professional Products

สินค้าพวกนี้ก็จะเน้นลูกค้าที่เป็นพวก salons ต่างๆ

2. Consumer Products

สินค้ากลุ่มนี้ราคาต่ำ เน้นไปที่คนส่วนใหญ่ หาซื้อได้ตาม supermarkets และ drugstores

3. Luxyry Products

สินค้ากลุ่มนี้ก็มีหลายยี่ห้อด้วยกัน เราก็คงจะคุ้นหูกันดี ... สินค้าก็จะเป็นพวก skincare และ makeup แล้วก็มี fragrance ด้วย

4. Active Cosmetics

กลุ่มนี้ ... ก็จะเน้น look ไปทาง หมอๆ ยาๆ หน่อย ... ถึงแม้ว่าส่วนผสม อย่าง vichy หรือ LRP ก็ไม่ค่อยจะดูเป็นยาเลย ... แถมใน USA ยังต้องใช้ใบสั่งแพทย์ซื้อด้วย (เราก็ไม่เข้าใจนะ) แบบ ... ต้องใบสั่งแพทย์เพื่อซื้อวาสลีน T_T เป็นต้น ... นั่นเป็นนโยบายของเค้า ... เราไม่เกี่ยว Skinceuticals ถูก L'Oréal ซื้อมาได้ซัก 3 ปีเห็นจะได้ (ลืมแล้ว) ... ตอนนี้ก็ยังคงความเป็น Skinceuticals อย่างที่เราๆ เคยรู้จักไว้ (ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง)